จากบล็อก 5 กลยุทธ์ที่เราแนะนำเพื่อให้คุณไม่ตกเทรนด์ ในวันนี้เราจะมาลงรายละเอียดที่หัวข้อ Influencer – ไม่ผิดนักถ้าจะบอกว่าช่วงนี้เราได้เข้าสู่จุดสูงสุดของการรีวิวสินค้าผ่าน YouTube การแชร์ภาพถ่ายสวย ๆ ใน Instagram และการทำการตลาด Influencer แล้ว การจะทำต่อไปก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่โลกของการตลาดก็ยังเปลี่ยนแปลงไปทุกนาที และเราก็เห็นการเปลี่ยนแปลงนั้น นั่นคือการร่วมกันระหว่าง Affiliate Marketing และ Influencer ที่จะเปลี่ยนจากแค่การเข้าถึง/ความน่าเชื่อถือเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้
เราคุ้นเคยกับการจ้าง Influencer ให้มารีวิวสินค้าเพื่อเพิ่มการมองเห็นแล้ว แต่ในปีนี้ Influencer จะเป็นยิ่งกว่านั้น คือการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างรายได้ให้กับเรา
จากนักเล่าเรื่องกลายเป็นนักขายมือทอง
Influencer ทำหน้าที่เป็นนักเล่าเรื่อง ที่ช่วยบอกต่อเพิ่มการรับรู้ให้กับแบรนด์ แต่ปีนี้เป็นต้นไปความคาดหวังของแบรนด์จะเปลี่ยนไป นั่นคือ Influencer ต้องทำได้มากกว่าการโปรโมตสินค้า หรือก็คือต้องการลับที่จับต้องได้ วัดผลได้ กลายเป็นยอดขายได้จริง ผ่าน Affiliate Marketing ที่ Influencer จะได้รับรหัสหรือลิ้งค์เฉพาะที่ช่วยติดตามว่าคนซื้อสินค้าผ่านการรีวิวของ Influencer บ้างหรือไม่ ทำให้เห็นว่า Influencer แต่ละสร้างยอดขายให้แบรนด์มากน้อยแค่ไหน วัดผลลัพธ์ได้จริง และจ่ายเงินคืนให้กับ Influencer เมื่อเกิดยอดขาย
Performance-Based Partnerships: กลยุทธ์แบบ win-win ที่ทุกคนได้ประโยชน์
การตลาดแบบพันธมิตรที่เน้นผลลัพธ์ (Performance-Based Partnerships) ไม่ได้แปลว่า Influencer จะต้องทำงานหนักขึ้นอย่างเดียว แต่ยังแปลว่า Influencer ได้กลายเป็นพันธมิตรคนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมยอดขายให้กับแบรนด์ ยิ่งยอดขายของแบรนด์โตขึ้นจาก Influencer มากเท่าไหร่ Influencer ก็ยิ่งได้มากขึ้นเช่นกัน
การตลาดแบบนี้เป็นประโยชน์ทั้งกับแบรนด์และ Influencer:
- สำหรับแบรนด์: มั่นใจได้ว่าเม็ดเงินที่ลงทุนทำการตลาดไปจะได้ผลจริงๆ เพราะเงินที่ใช้ไปจะรีเทริ์นกลับมาเป็นผลลัพธ์ที่จับต้องได้
- สำหรับ Influencer: พวกเขาสามารถสร้างรายได้ไม่จำกัดจากการรีวิวสินค้า ทั้งจากผู้ติดตามหรือผู้ที่แค่ผ่านมาเห็นคลิปด้วยซ้ำ โดยจะได้รับค่าคอมมิชชั่นตามยอดขายที่เกิดจากการแนะนำ
พลังของ Influencer ระดับไมโครและนาโน
พูดกันทุกปีว่า micro และ nano influencer เป็นส่วนสำคัญในการตลาด เพราะแม้จำนวนผู้ติดตามจะน้อย แต่จะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดตามกลุ่มมากกว่า ซึ่งความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดพวกนี้แหละที่จะสามารถเปลี่ยนการมองเห็นให้กลายเป็นยอดขายได้สูงกว่า influencer ที่มีผู้ติดตามเยอะๆ หลายแบรนด์หันมาใช้งาน influencer ระดับนี้ เพราะมีอิทธิพลมากในและเจาะกลุ่มผู้ติดตามที่เฉพาะเจาะจงได้ดีกว่า
Social Commerce และ TikTok กลายเป็นอีกเรื่องที่สำคัญของแบรนด์
ถ้าคุณเป็นคนที่อยู่คอนโดน่าจะได้เห็นกล่องไปรษณีย์ที่มาจาก TikTok วันละหลายๆ กล่องใช่ไหมล่ะ แพลตฟอร์มอย่าง TikTok ในไทยไม่ใช่แค่ที่โพสตอนเท็นต์แต่กลายเป็น Social Commerce ได้แล้วจริงๆ และจะเพิ่มความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นอย่าลืมพิจารณาใช้ TikTok Shop ไว้ ข้อดีของ TikTok คือการที่เข้าถึงได้ง่าย influencer สามารถขายสินค้าผ่านโพสต์หรือไลฟ์ของตัวเองได้เลย โดยที่ผู้ติดตามไม่ต้องออกจากแพลตฟอร์มไปไหน ก็กดซื้อสินค้าได้เลย
TikTok จึงไม่ใช่แค่แพลตฟอร์มสำหรับการสร้างการรับรู้ แต่ยังทำให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้เลยในไม่กี่คลิก ลูกค้าก็ได้ประสบการณ์การชอปปิ้งที่ทั้งสนุกสนานและสะดวกสบาย
ยิ่งขยาย partnership ก็ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ในการขายสินค้า
หลายๆ แบรนด์ ไม่ได้ทำงานกับ influencer เพียงอย่างเดียว แต่เริ่มเพิ่ม Affiliate Programให้คลอบคลุมหลายด้านมากขึ้น ทั้งการทำงานกับบล็อกเกอร์ เว็บไซต์รีวิว แม้กระทั่งการขายสินค้าร่วมกับแบรนด์อื่น นั่นเพราะยิ่งเราเพิ่มพาร์ทเนอร์มากเท่าไหร่ก็ยิ่งครอบคลุมกลุ่มผู้บริโภคได้มากขึ้นด้วย
ทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ
หลังการระบาดของโรคโควิด-19 พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะการซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ดังนั้น Affiliate marketing ที่ทำร่วมกับ influencer จึงตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในยุคนี้ได้เป็นอย่างดี
สรุป: collaboration สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้แบรนด์เราอยู่รอด ไม่ตกเทรน์
Affiliate marketing ไม่ใช่แค่เรื่องที่ทำได้ก็ดี แต่เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้แบรนด์เติบโตอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ยิ่งถ้าได้ทำ Affiliate marketing ร่วมกับ influencer จนได้ผลลัพธ์ที่สามารถวัดผลได้ ก็จะช่วยให้แบรนด์ทั้งรอดทั้งรุ่งในโลกการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างเร็วอย่างทุกวันนี้
บริการด้านงานประชาสัมพันธ์ & การตลาดอินฟลูเอนเซอร์ของเรา